Last updated: 24 มิ.ย. 2564 | 2047 จำนวนผู้เข้าชม |
1. เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastics) พลาสติกชนิดนี้ เมื่อได้รับความร้อนจะอ่อนตัว และเมื่ออุณหภูมิลดลงจะแข็งตัว ถ้าให้ความร้อนอีกก็จะอ่อนตัวอีก สามารถทำให้กลับเป็นรูปเดิมหรือเปลี่ยนเป็นรูปอื่นได้ โดยสมบัติของพลาสติกยังคงเหมือนเดิม พลาสติกประเภทนี้ มีโครงสร้างโมเลกุลเป็นโซ่ตรงยาว มีการเชื่อมต่อระหว่างโซ่พอลิเมอร์น้อยมาก จึงสามารถหลอมเหลวในอุณหภูมิสูงหรือเมื่อผ่านการอัดแรงมากๆ โดยไม่ทำลายโครงสร้างเดิม
2. พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (Polyethylene terephthalate หรือ PET) เป็นพลาสติกที่มีลักษณะแข็ง ไม่มีสี มีความเป็นผลึกสูง นำไปใช้ในชิ้นส่วนเครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า ภาชนะบรรจุอาหาร ขวดบรรจุน้ำอัดลม ขวดบรรจุน้ำมันพืช เส้นใยสังเคราะห์ ผลิตภัณฑ์จากรีไซเคิล PET ได้แก่ ขวดน้ำ ภาชนะบรรจุ โต๊ะปิกนิก รองเท้าบูต รั้วบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
3. พอลิเอทิลีน (Polyethylene PE) เป็นพลาสติกที่มีคุณสมบัติ มีจุดหลอมเหลวต่ำ ไม่สามารถทนอุณหภูมิสูงได้ มีความใส เหนียว และยืดหยุ่นได้ดี โดยทั่วไปแล้วพลาสติกประเภท PE จะแบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ
4. พอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (Low density polyethylene, LDPE) นิยมใช้กันมากในรูปของฟิล์มพลาสติก ฟิล์มด้านในของภาชนะบรรจุที่ต้องมีการผนึกด้วยความร้อน ถุงบรรจุขนมปัง อาหารแช่แข็ง ถุงพลาสติกชนิดถุงเย็น หลอดกาแฟ ของเล่นชนิดต่างๆเป็นต้น
5. พอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (High density polyethylene, HDPE) มีความแข็งแรงมากกว่า LDPE มีลักษณะโปร่งแสงและขุ่น นิยมใช้ทำขวดน้ำ ท่อพลาสติก ถังน้ำมันเครื่อง ตะกร้า ถุงขยะสีดำ และถุงพลาสติกร้อน เป็นต้น
25 ก.ค. 2566
30 เม.ย 2564
25 ก.ค. 2566
24 มิ.ย. 2564